ริดสีดวง คือโรคชนิดหนึ่งที่เกิดจากเส้นเลือดดำทวารหนักหรือส่วนปลายสุดของลำไส้ใหญ่มีอาการบวมพองอักเสบ ยื่นนูนเป็นติ่งโผล่ออกมาจากทวารหนัก ซึ่งสร้างความเจ็บปวด ความเป็นกังวล และรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันแก่ผู้ป่วยเป็นอย่างมาก โดยโรคริดสีดวงนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1.ริดสีดวงทวารชนิดเป็นภายใน

ริดสีดวงที่เกิดขึ้นบริเวณด้านปลายสุดของลำไส้เหนือทวารหนักขึ้นไป ไม่โผล่ออกมา และไม่สร้างความเจ็บปวด รวมถึงไม่มีอาการอื่น ๆ แทรกซ้อนให้เป็นอันตราย เนื่องจากมีริดสีดวงจะถูกคลุมด้วยเยื่อลำไส้ใหญ่ตอนปลายสุด

2.ริดสีดวงทวารชนิดเป็นภายนอก

ติ่งเนื้อริดสีดวงที่โผล่พ้นออกมาจากทวารหนัก มักเกิดขึ้นบริเวณปากรอยย่นของทวารหนัก สามารถมองเห็นและคลำได้ ติ่งริดสีดวงนี้มีสาเหตุจากที่เส้นเลือดมาปกคลุมผิวบริเวณนั้น อาจทำให้เกิดความเจ็บปวด และมีภาวะแทรกซ้อน

โรคริดสีดวงเกิดจากสาเหตุอะไร?

  • พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เสี่ยง

พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้อง ทั้งการรับประทานและการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน ทำให้เลือดไม่ไหลเวียนย้อนกลับ การดื่มน้ำน้อย ทานอาหารที่มีกากใยน้อย ทานอาหารรสจัด ดื่มชาและกาแฟเป็นประจำ การใช้ยาสวนอุจจาระและยาระบายบ่อย ล้วนแล้วแต่ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานลำบาก ท้องผูกบาดผิวหนังจนเกิดเป็นริดสีดวงซึ่งถือเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่พบได้ทั่วไป

  • โรคแทรกซ้อนจากโรคอื่น ๆ

ริดสีดวงมีสาเหตุจากโรคแทรกซ้อนของโรคอื่น ๆ ได้เช่นกัน โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบขับถ่ายและระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคท้องผูก โรคอุจจาระร่วง โรคตับแข็ง โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ต่อมลูกหมากโต และโรคไวรัสตับอักเสบบี ที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการท้องมาน มีน้ำและก้อนเนื้อในช่องท้อง ส่งผลต่อหลอดเลือดดำที่ทวารหนักจนทำให้เป็นริดสีดวง

  • พันธุกรรม

ผู้ป่วยริดสีดวงบางรายอาจมีสาเหตุจากพันธุกรรม โดยมีคนในครอบครัวหรือผู้ป่วยเป็นริดสีดวงที่มียีน FOXC2 บนโครโมโซมคู่ที่ 16 ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับโรคเส้นเลือดขอดที่ขา

อาการของโรคริดสีดวง

  • ริดสีดวงระยะที่ 1 : เมื่อผู้ป่วยถ่ายอุจจาระจะมีเลือดออก แต่ยังไม่มีหัวริดสีดวงโผล่ออกมาให้เห็นด้วยตาเปล่า
  • ริดสีดวงระยะที่ 2 : หัวริดสีดวงเริ่มโตขึ้นเมื่อผู้ป่วยถ่ายอุจจาระจะเริ่มมีหัวริดสีดวงโผล่ออกมาแล้ว แต่ยังจะยุบกลับเข้าไปภายในทวารหนักอยู่
  • ริดสีดวงระยะที่ 3 : อาการรุนแรงขึ้นจนเมื่อถ่ายอุจจาระ หรือกระทำอะไรที่ทำให้เกิดการเกร็งแล้วหัวริดสีดวงจะโผล่ออกมาภายนอกทวารหนัก และกลับเข้าไปภายในทวารหนักเองไม่ได้แล้ว
  • ริดสีดวงระยะที่ 4 : เห็นหัวริดสีดวงโตจนมองเห็นชัดเจน มีอาการระคายเคืองและบวมอักเสบจนก่อให้เกิดความเจ็บปวด อาจมีอาการแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

แนวทางการรักษาโรคริดสีดวงที่ถูกต้อง

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงริดสีดวง

ริดสีดวงมักมีสาเหตุมาจากอาการท้องผูก เพราะผู้ป่วยเหล่านี้มักจะมีพฤติกรรมการเบ่งอุจจาระรุนแรง ควรหันมารับประทานผักผลไม้ที่มีกากใยสูง เช่น แอปเปิล ฝรั่ง มะละกอสุก และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 ถึง 10 แก้ว เพื่อลดอาการท้องผูก ขับถ่ายสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงควรลดการรับประทานอาหารรสจัด และการดื่มชากาแฟ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบขับถ่ายมีปัญหา

  • รับประทานยาและเหน็บยาเพื่อลดอาการริดสีดวง

หากเป็นริดสีดวงและเข้าพบแพทย์ เพื่อจะดำเนินการรักษาตามระยะของอาการ ซึ่งหากอาการยังอยู่ในขั้นต้น แพทย์มักจะให้ผู้ป่วยรับประทานยาลดอาการบวมของเส้นเลือดดำ ยาแก้ปวด และรวมถึงการสั่งจ่ายยาเหน็บเพื่อรักษาให้อาการริดสีดวงบรรเทาดีขึ้นตามลำดับ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงระยะที่ 3 และ 4 แพทย์จะดำเนินการรักษาให้หายขาดได้โดยการผูกหัวริดสีดวงหรือผ่าตัดริดสีดวงทวารออก

  • รับประทานอาหารเสริมโพรไบโอติกเพื่อลดอาการท้องผูก

นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการพบแพทย์รักษาแล้ว การรับประทานอาหารเสริมโพรไบโอติกที่มีกากใยและสารอาหารสูง สามารถลดความเสี่ยงและบรรเทาอาการริดสีดวงทวารได้แบบไม่เจ็บอีกวิธีหนึ่งด้วย เพราะอาหารเสริมโพรไบโอติก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโพรไบโอติก Probalance Jelly ของ The NA ที่เต็มไปด้วยจุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์คุณภาพ จะช่วยบำรุงระบบขับถ่ายและระบบทางเดินอาหาร ปรับสมดุลลำไส้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคริดสีดวงนั่นเอง

โรคริดสีดวงทวารแม้ว่าจะไม่มีอาการรุนแรงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต แต่ก็สร้างความเจ็บปวดและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก หากใครที่เริ่มมีอาการริดสีดวงในระยะแรกเริ่ม ควรรีบพบแพทย์และดำเนินการรักษาให้ถูกต้องจะดีที่สุด เพื่อที่อาการจะได้บรรเทาลง

สำหรับท่านใดที่ต้องการมองหาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโพรโบไอติก เพื่อบำรุงระบบขับถ่าย ลดความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคริดสีดวงทวาร เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโพรไบโอติก Probalance Jelly สินค้าเอกสิทธิ์ของ The NA Thailand ที่อัดแน่นด้วยจุลินทรีย์โพรไบโอติกชนิดดีหลายชนิดควบคู่กับจุลินทรีย์พรีไบโอติก ตัวช่วยในการบรรเทาอาการท้องผูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทาน Probalance Jelly 1 ซอง เทียบเท่ากับการทานโยเกิร์ต 32 ถ้วย เลยทีเดียว ท่านใดที่สนใจติดต่อเราได้ผ่าน LINE : @nathailand หรือโทร 053-275887